วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2559

กุ้ยหลินเมืองไทย vs ฮาลองเบย์ เวียดนาม

คุณคิดว่าสองที่เที่ยวนี้เหมือนกันแค่ไหน


เขื่อน รัชชประภา



                          เขื่อน รัชชประภา มีชื่อเรียก ดั้งเดิมว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ แห่งที่สอง ของภาคใต้ อยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามให้ใหม่ว่า "เขื่อนรัชชประภา" มีความหมายว่า "แสงสว่างแห่งรัชกาล"

                         เขื่อน รัชชประภา เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ อีกแห่งหนึ่ง ของการไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่ได้ประสบผลสำเร็จ ลุล่วงตามเป้าหมาย ที่วางไว้ ทุกประการ ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือด้วยดี จากหน่วยงานต่างๆ ทั้งในภาครัฐบาล และเอกชน



                         เนื่อง ในวโรกาส มหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ และรัชมังคลาภิเษก ในปี ๒๕๓๐ เขื่อนรัชชประภา ได้รับการพิจารณา ให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ ตามที่รัฐบาลจัดถวาย นับเป็นเกียรติ อันยิ่งใหญ่ของ กฟผ. และชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งจะคงความภูมใจ อยู่คู่กับเขื่อนนี้ ตลอดไป

                         เขื่อน รัชชประภา เริ่มดำเนินการก่อสร้าง เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ แล้วเสร็จ ในเดือนกันยายน ๒๕๓๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนิน เปิดเขื่อน รัชชประภา และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เมื่อวันพุธที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๓๐

                          เขื่อน รัชชประภา หรือที่เรียกกันติดปากว่า กุ้ยหลินเมืองไทย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่น ทัศนียภาพ ของ เขื่อนรัชชประภา นอกจากนั้นแล้วยังมี่ลักษณะคล้ายกับ ฮาลองเบย์ของเวียดนามอีกด้วยโดยทั่วไปภาย ในอ่างเก็บน้ำเหนือ เขื่อนรัชชประภา มีความสวยงมาก นักท่องเที่ยวทุกคณะที่ไปเห็นล้วนประทับใจ ภูมิประเทศโดยทั่วไปของ เขื่อนรัชชประภา เป็นภูเขาหินปูนที่สูงชันล้อมรอบไปด้วยผืนน้ำที่กว้างใหญ่ สีน้ำใสจน ด้วยความลึกที่มาก ประกอบ กับสีของตะไคร้น้ำที่อยู่เบื้องล่างทำให้น้ำใน เขื่อนรัชชประภา มีสีเข้มเหมือนสีมรกต หรือเหมือนสีน้ำทะเลของถ้ำมรกต ลักษณะภูมิประเทศไปคล้ายกับภูมิประเทศที่เมืองกุ้ยหลินประเทศจีน จึงได้ฉายาว่า กุ้ยหลินเมืองไทย






 

                   ฮาลองเบย์ เวียดนาม(Ha Long Bay)  




            ในปี 1962, กระทรวงการท่องเที่ยวของเวียดนามได้จัดให้อ่าวฮาลองเป็นเขตพื้นที่อนุรักษ์ และในปี 1994 องค์การ UNECO ได้ประกาศให้อ่าวแห่งนี้เป็นมรดกโลก ทุกวันนี้อ่าวฮาลองเป็นพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม และถูกจัดให้เป็นอ่าวที่สวยงามที่สุดเป็นอันดับที่ 33 ของโลกอีกด้วย  ฮาลอง เบย์ ตั้งอยู่ในส่วนหนึ่งของ อ่าวตังเกี๋ย ทางตอนเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ใกล้ชายแดนติดต่อกับสาธารณรัฐประชาชนจีน มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางกิโลเมตร และมีชายฝั่งยาว 120 กิโลเมตร อยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางตะวันออกประมาณ 170 กิโลเมตร 




               มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามเขียนได้ว่า "Vinh Ha Long" หมายถึง "อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง" ตำนานพื้นบ้านกล่าวไว้ว่า ในอดีตนานมาแล้วระหว่างที่ชาวเวียดนามกำลังต่อสู้กับกองทัพชาวจีนผู้รุกราน เทพเจ้าได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยปกป้องแผ่นดินเวียดนาม มังกรเหล่านี้ได้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลบริเวณที่เป็นอ่าวฮาลองในปัจจุบัน ทำให้มีอัญมณีและหยกพุ่งกระเด็นออกมากลายเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่วอ่าวเป็นเกราะป้องกันผู้รุกราน ทำให้ชาวเวียดนามปกป้องแผ่นดินได้สำเร็จ และก่อตั้งประเทศ ซึ่งต่อมาคือเวียดนามในปัจจุบัน บางตำนานก็กล่าวไว้ว่ามีสัตว์ในตำนานที่ชื่อว่า Tarasque อาศัยอยู่ที่ก้นอ่าวบริเวณ

                ฮาลองเบย์(Halong Bay) หนึ่งในมรดกโลกของเวียดนาม(UNESCO World Heritage Site) อ่าวแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 1,553 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ประมาณ 1,960 เกาะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกาะหินปูนซึ่งก่อตัวมาตั้งแต่เมื่อ 500 ล้านปีที่แล้ว อ่าวฮาลองยังเป็นต้นกำเนิดของดอกไม้และพืชพันธุ์กว่า 60 ชนิดที่พบได้เฉพาะที่นี่





http://www.bloggang.com/
http://www.abroad-tour.com/
 https://sites.google.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น