1. วัดถ้ำเขาวง : อุทัยธานี
ดูภายนอกจะเห็นเป็นเรือนไม้ขนาดใหญ่โอบล้อมด้วยเขาหินปูน เหมือนเป็นรีสอร์ทสวยงาม ท่ามกลางบรรยากาศกำลังเย็นสบายๆ ของหน้าหนาว แต่ที่จริงแล้ว ที่นี่คือ “วัดถ้ำเขาวง” วัดนี้เหมือนกับศาลพระภูมิขนาดยักษ์ ตั้งอยู่ในตำบลบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
2. วัดพระธาตุเขาน้อย : น่าน
วัดพระธาตุเขาน้อยตั้งอยู่ใน ตำบลไชยสถาน องค์พระธาตุตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อยซึ่งอยู่ด้านตะวันตกของตัวเมืองน่านซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 240 เมตร ที่นี่จึงกลายเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของจังหวัดน่าน นอกจากนี้ ตรงจุดลานปูนซึ่งจะมีพระพุทธรูปปางลีลาองค์ใหญ่ คือ พระพุทธมหาอุตมมงคมนันทบุรีศรีเมืองน่าน ประดิษฐานอยู่ด้วยค่ะ เรียกได้ว่า ได้ทั้งมาไหว้พระ และชมวิวสวยๆ 360 องศากันได้ที่นี่
3. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว: เพชรบูรณ์
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว หรือวัดพระธาตุผาแก้วนี้ ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ค่ะ ที่นี่มีภูเขาสูงใหญ่ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรมไว้ และมีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขาอีกด้วย ความสวยงามของวัดนี้อยู่ที่กระจก กระเบื้องต่างๆ ที่มารวมตัวกันกลายเป็นวัดกระจกหลากสี ส่องแสงสวยงามท่ามกลางขุนเขาที่เงียบสงบของเขาค้อนั่นเอง
4. วัดโสธรวรารามวรวิหาร : ฉะเชิงเทรา
วัดโสธรวรารามวรวิหาร หรือที่เราเรียกกันย่อๆ ว่าวัดโสธรนั้น เป็นหนึ่งในวัดที่มีความเก่าแก่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมานาน คาดกันว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธโสธร หรือหลวงพ่อโสธร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของฉะเชิงเทราค่ะ ความสวยงามของวัด และภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบ นับตั้งแต่พื้นพระอุโบสถ เสา ผนัง และเพดาน จะบรรจุเรื่องราวให้เป็นแดนแห่งทิพย์ เป็นเรื่องราวของสีทันดรมหาสมุทร จตุโลกบาล สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พรหมโลก ดวงดาว เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมเสมอ
5.วัดข่อย : เพชรบุรี
พระธาตุฉิมพลีพระเศรษฐีนวโกฎิ นี้ตั้งอยู่ที่ วัดข่อย ในอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นศาสนสถานที่มีความโดดเด่นที่สถาปัตยกรรม สร้างขึ้นโดยการนำศิลปะชั้นสูงของช่างสิบหมู่มาใช้ในการสร้าง จึงมีความงดงามที่อ่อนช้อยไม่เหมือนที่อื่น รายล้อมด้วยรูปแกะสลักทั้งแบบนูนต่ำ นูนสูง ประดับอยู่ทั่วไป ตั้งแต่ซุ้มประตู ซุ้มหน้าต่าง ฝาผนังตั้งแต่ชั้น 1 ถึง ชั้น 3 ทีเดียวค่ะ
6. วัดร่องขุ่น : เชียงราย
วัดร่องขุ่น นี้ต่างจากวัดอื่นๆ ตรงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ค่ะ ตั้งอยู่ที่ ตำบลป่าอ้อดอนชัย ห่างจากอำเภอเมืองเชียงรายไป 12 กิโลเมตร วัดนี้ออกแบบและก่อสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรชื่อดังของไทย เจ้าของคำพูดที่เรารู้จักกันดีว่า “มันคือศิลปะ” ที่นี่น่าสนใจด้วยพระอุโบสถสีขาวล้วนที่ตกแต่งด้วยลวดลายกระจกสีเงิน ประดับด้วยพญานาค ภาพจิตรกรรมฝาผนัง และปะติมากรรมต่างๆ มากมาย
7. วัดมหาธาตุ : พระนครศรีอยุธยา
วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ทางทิศตะวันออกของวัดพระศรีสรรเพชญ์ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาค่ะ วัดมหาธาตุนี้เป็นวัดที่มีความสำคัญยิ่งในสมัยอยุธยา เพราะเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร ถึงปัจจุบันวัดมหาธาตุจะเหลืออยู่เป็นเพียงโบราณสถาน แต่ก็ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้แวะเวียนมาค่ะ ทั้งตัวเจดีย์เก่าแก่ และ เศียรพระพุทธรูปหินทรายกว่าร้อยปีซึ่งมีรากไม้ต้นโพธิ์ปกคลุมอยู่ ทำให้มีความงดงามแปลกตา จนเลื่องลือกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกสิ่งหนึ่งของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาค่ะ
8. วัดพระธาตุสุโทน : แพร่
ถ้าใครได้ไปเที่ยวเมืองแพร่ เห็นทีจะต้องแวะมา วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีสามัคคีธรรม หรือ วัดพระธาตุสุโทน กันสักครั้ง เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมศิลปกรรมล้านนาประยุกต์ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยค่ะ ทั้งภาพจิตรกรรมบนฝาผนังระเบียงคตซึ่งเป็นเรื่องราวของชาดกพื้นบ้าน และภาพพุทธประวัติ และในบริเวณวัดยังมีเจดีย์ทรงล้านนากว่า 30 องค์อีกด้วย
9. วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร: นครศรีธรรมราช
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่ชาวนครเรียกว่า วัดพระธาตุ นั้นเป็นโบราณสถานสถานศักดิ์สิทธิ์ และเป็น ศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองนครศรีธรรมราชค่ะ อีกทั้งยังเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราชอีกด้วย ซึ่งพระบรมธาตุเจดีย์นั้นเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ นอกจากนี้พระบรมธาตุเจดีย์นั้นยังมีความน่าอัศจรรย์ใจอีกอย่างหนึ่งจนผู้คนต่างพากันเรียกว่า “พระธาตุไร้เงา” เนื่องจาก องค์พระธาตุจะไม่มีเงาทอดลงพื้นไม่ว่าแสงอาทิตย์จะส่องกระทบไปทางไหนซึ่งยังไม่มีใครสามารถหาคำตอบได้ว่าเป็นเพราะอะไร ทำให้พระบรมธาตุเจดีย์กลายเป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์ และยังได้รับมติบัญชีรายชื่อขึ้นทะเบียนมรดกโลกอีกด้วย
10. วัดเกาะพยาม : ระนอง
พระอุโบสถกลางน้ำ หรือ โบสถ์กลางทะเล ของวัดเกาะพยาม จังหวัดระนองนี้ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "อุทกฺกเขปสีมา" ซึ่งหมายถึงโบสถ์กลางน้ำที่พระพุทธเจ้าเคยกล่าวถึงในพุทธกาล ตัวโบสถ์มีลักษณะคล้ายมีดอกบัวมาโอบอุ้มโบสถ์อยู่อีกที มองไปแล้วสวยงามมาก ยิ่งอยู่กลางทะเลที่มีฟ้าสีคราม น้ำทะเลใสๆ แบบนี้ สวยจนแทบลืมหายใจไปเลยค่ะ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะพยามมักจะมาแวะเวียนสักการะพระพุทธรูปในโบสถ์กลางน้ำนี้เสมอเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง
ที่มาhttp://travel.mthai.com/
http://travel.truelife.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น